สถิติผู้ชมเว็บไซต์







 


ศัลยกรรมเสริมจมูก (Rhinoplasty)


 

 

เสริมจมูกซิลิโคน (NOSE SURGERY)

 

คนเอเชียที่มักไม่มีสันจมูกที่โด่งแบบคนยุโรป จึงสามารถเสริมให้เป็นสันได้โดยแท่งซิลิโคน แต่การศัลยกรรมเสริมจมูกซิลิโคนไม่ใช่การเสริมจมูกให้โด่งเข้าไว้เพียงอย่างเดียวแต่ต้องทำให้เกิดความสูงต่ำที่เหมาะสมของสันจมูกและหน้าผาก เพื่อให้เข้ากับสัดส่วนของหน้าเพื่อความสวยงามโดยรวม เพื่อลดความเสี่ยงจมูกทะลุจากการเสริมที่มากเกินไป

 การเสริมจมูกด้วยการผ่าตัดแบบธรรมดา (Close Rhinoplasty) โดยแพทย์จะใช้วัสดุสังเคราะห์ในการเสริมจมูก (ทำจมูก) เช่น ซิลิโคน ซึ่งจะผ่าตัดสอดเข้าไปตามรอยแผลผ่าตัดเล็ก ๆ ภายในช่องจมูก เป็นเทคนิคที่ทำได้ง่ายและสะดวก ใช้เวลาผ่าตัดไม่นานเหมาะกับกรณีที่คนไข้มีรูปทรงจมูกของเดิมที่ดีอยู่แล้วระดับหนึ่ง เช่น ฐานจมูกไม่ใหญ่จนเกินไป สันจมูกไม่แบบเรียบมากเกินไป รูปทรง จมูกไม่เบี้ยวและยาวหรือสั้นเกินไปเนื่องจากหากจมูกมีความยาวที่เหมาะสมก็สามารถเสริมได้ด้วยซิลิโคน แต่มีข้อจำกัดคือไม่เหมาะกับผู้ที่มีจมูกสั้น (Short Nose)

 

 

วิธีการผ่าตัด

การเสริมจมูกแบบซิลิโคน คือ การใช้วัสดุสังเคราะห์ (ซิลิโคน) ในการเสริมจมูกซึ่งจะผ่าตัดสอดเข้าไปตามรอยแผลผ่าตัดเล็ก ๆ ภายในช่องจมูก โดยแพทย์จะวางซิลิโคนตั้งแต่สันจมูกถึงปลายจมูก เป็นเทคนิคที่ทำได้ง่ายและสะดวกใช้เวลาผ่าตัดไม่นานและพักฟื้นน้อยมาก โดยแพทย์จะดีไซน์รูปทรงให้ออกมาเหมาะสมเข้ากับโครงสร้างของใบหน้าแต่ละคน

 

 

 

ส่วนสำคัญของทรงจมูก

  1. ดั้ง เป็นปัญหาสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ บางท่านไม่ได้เกิดมาพร้อมกับดั้งโด่งสวยแบบชาวต่างชาติ ในส่วนนี้จึงเป็นส่วนที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ต้องการเสริมดั้งให้สูงขึ้น มากกว่าการทำส่วนอื่นๆ

  2. กลางจมูก บางคนอาจจะเกิดปัญหาจมูกเป็นคลื่น มีเนื้อในส่วนนี้มากเกินไป จึงทำให้จมูกดูโตไม่รับกับใบหน้า

  3. ปลายจมูก เป็นส่วนที่หลายคนต้องการปรับแต่งทั้งในส่วนของปีกจมูก และ ปลายจมูก ให้ได้รูปทรงที่สวยงามตามต้องการ

 

1. การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Technique)
การเสริมจมูกโดย “เทคนิคแบบปิด” โดยทำการเปิดแผลภายในจมูกเพื่อใส่ซิลิโคน วิธีนี้เป็นวิธีที่จะรบกวนโครงสร้างพื้นฐานของจมูกน้อยที่สุด และทำการเก็บแผลอยู่ภายในจมูก

เหมาะสำหรับ 
ผู้ที่มีพื้นฐานจมูกดี ตั้งแต่ดั้งจนถึงปลายจมูกเรียวเล็กและอยู่แล้ว

ข้อดี 
1. ราคาไม่สูงเท่าการทำจมูกแบบเปิด
2. บวมช้ำน้อย บางรายไม่บวมช้ำเลย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ
3. ใช้เวลาไม่นาน 30 นาที โดยประมาณ

 

 

 

การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Technique)  
การเสริมจมูกโดย “เทคนิคแบบเปิด”  หรือที่เราได้ยินกันบ่อยๆว่า การทำจมูกแบบโอเพ่น (Open)  วิธีนี้จะเป็นการเปิดแผลบริเวณฐานจมูก กรีดผ่าออกในแนวดิ่ง เพื่อให้เห็นแกนจมูก ทำการแยกเนื้อ และผิวหนังออกจากโครงสร้างของจมูกโดยจะทำการเสริมจมูกโดยใช้เทคนิคการนำบางส่วนอวัยวะของคนไข้มาช่วยทำให้รูปทรงของจมูกสวยอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เช่น ส่วนของกระดูกอ่อนหลังหู กระดูกก้นกบ ศัลยแพทย์จะพิจารณาโครงสร้างของจมูกและทำการ จัดแต่ง แก้ไขข้อบกพร่องโครงสร้างพื้นฐานในแต่ละส่วนของจมูก

เหมาะสำหรับ
ผู้ที่มีรูจมูกเชิด ปลายจมูกสั้น ต้องการแก้ไขทรงจมูกให้ยาวขึ้น พุ่งขึ้น หรือ แม้กระทั่งการทำจมูกหยดน้ำที่ดูเป็นธรรมชาติ

ข้อดี 
1. สำหรับผู้ที่มีปัญหาจมูกผิดรูปมาก วิธีนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และ ครบถ้วน
2. การตกแต่งปลายจมูกให้โด่ง เชิด จะดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ เนื่องจาก การทำจมูกแบบเปิดจะใช้เทคนิคการนำอวัยวะบางส่วนของร่างกายมาตกแต่งเพิ่มเติม เช่น การนำกระดูกอ่อนหลังหูมาเติมช่วงปลายจมูกเพื่อให้จมูกยาวขึ้น รวมถึงจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการทะลุของซิลิโคน

 

 

วัสดุที่ใช้เสริมจมูก

 ซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกเป็นซิลิโคนที่ผลิตเพื่อใช้ในการแพทย์ (Medical Grade Silicone) ซึ่งซิลิโคนที่เสริมนั้นจะมีความแตกต่างกันตามประเทศที่ผลิต โดยศัลยแพทย์จะเลือกใช้ตามความเหมาะสมกับรูปทรงจมูกและสภาพผิวของแต่ละบุคคล



 การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

  • แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว, ประวัติการผ่าตัด, ประวัติการแพ้ยา, ประวัติการแพ้อาหาร (หากมีประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล ควรนำมาในวันปรึกษาด้วย) หรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
  • ผู้ป่วยที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, หรือยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID เช่น Voltaren, Brufen หรือยาโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการผ่าตัดหรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
  • งดทานวิตามินอาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, ใบแปะก๊วย เมล็ดองุ่น โสม ฯลฯ ต้องหยุดยาอย่างน้อย 1 เดือน
  • ควรสระผมให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันผ่าตัด และไม่แต่งหน้าในวันผ่าตัด งดใส่คอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด หากมีปัญหาด้านสายตาให้สวมแว่นสายตาแทน
  • งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด เช่น ต่างหู สร้อย แหวน จิลต่าง ๆ บนร่างกายในวันผ่าตัด (หากถอดออกไม่ได้ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ)
  • งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากสารที่อยู่ในบุหรี่มีผลลดปริมาณออกซิเจนในเลือดและทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล มีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่ผ่าตัดลดลง โดยมีโอกาสให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดออกซิเจน ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
  • ก่อนการผ่าตัด คนไข้ต้องทำความสะอาดเล็บมือเล็บเท้าให้สะอาด งดการทาเล็บมือ, เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด
  • เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป และควรทราบว่าหลังผ่าตัดย่อมเกิดการบวมช้ำบริเวณแผล และการเปลี่ยนแปลงของใบหน้า หรือบริเวณร่างกายที่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เวลาในการหายของแผลหรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่


 

คำแนะนำหลังการผ่าตัดเสริมจมูก


1.นอนศีรษะสูง ช่วง7วันแรก ห้ามนอนตะแคง1เดือน

2.งดอาหารประเภทเค็ม รสจัดหมักดองประมาณ1สัปดาห์

3.หลัง24ชั่วโมงทำความสะอาดในจมูกด้วยก้านสำลีชุบน้ำอุ่นเช้า-เย็น

4.ให้ประคบเย็น5วันแรกแกะพลาสเตอร์ได้ทำความสะอาดใบหน้า และประคบอุ่นต่อ7วัน(ทุก2ชั่วโมงนาน20นาที)

5.ตัดไหม8-12วัน หลังผ่าตัด

6.นัดตรวจแผล1เดือน หลังผ่าตัด

7.งดแอลกอฮอล์บุหรี่และอาหารเสริม1เดือน

8. โดยทั่วไปจมูกจะยุบบวมและเข้าที่ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งจะยุบบวมประมาณ 60% ใน 1 อาทิตย์ , ยุบ 80% ใน 1 เดือน , ยุบบวมและเข้าที่ 90% – 100% ในอีก 3 – 6 เดือน

 
 

 



คลิกดูภาพรีวิวศัลยกรรมเสริมจมูก


คลิกดูภาพศัลยกรรมตัดปีกจมูก