สถิติผู้ชมเว็บไซต์







 


 


ศัลยกรรมเสริมคาง Chin Augmentation


 

ศัลยกรรมเสริมคาง


โดยปกติทั่วไปแล้วคนไทยและคนเอเชียจำนวนมากมักจะมีลักษณะคางที่สั้นจนผิดรูป ทำให้ใบหน้าดูสั้นไม่สมส่วน ไม่สวย การเสริมคางถือว่าเป็นการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้น การเสริมคางเป็นการเสริม แต่งใบหน้าให้สมส่วน กลมกลืน ช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ที่มีคางเล็ก ใหญ่ ที่ไม่ได้สัดส่วน หรือปรับคางถดถอยไปด้านหลังมากเกินไป ให้กลับมาสวยงามได้ รูปทรง คาง เป็นจุดหนึ่งที่สำคัญของความงามบนใบหน้า

Celeb Clinic อยากให้คุณผู้หญิงเชื่อมั่นในความปลอดภัย และมาตรฐานการผ่าตัด ที่ได้คัดสรรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นศัลยแพทย์ไว้ค่อยให้คำปรึกษาเพื่อการประเมินที่ถูกต้องก่อนการผ่าตัด รวมทั้งทีมงานพยาบาล และพนักงานที่ให้บริการ ดูแลคุณผู้หญิงตั้งแต่ก่อนได้รับการผ่าตัดและหลังการผ่าตัด คุณภาพเครื่องมือ อุปกรณ์การผ่าตัด ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งท่านสามารถวางใจใน Celeb Clinic ในการเนรมิตคางสวยให้โดดเด่น

 

พื้นฐานสาวๆ มักจะมีใบหน้าที่กลม คางสั้น คางเล็กจนดูไม่ออก เลยทำให้หน้าดูไม่มีมิติ สาวๆ ส่วนมากเลยหันมาศัลยกรรมคาง เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ จริงๆ แก้ไขไม่ยากเลย สามารถ เสริมคาง ให้รูปหน้าดูยาวขึ้นได้ แถมยังไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องของรอยแผลผ่าตัดกันด้วย เนื่องจากแพทย์สามารถ เสริม คาง แบบไร้แผลได้ วิธีการก็คือ เปิดแผลผ่าตัดภายในปาก บริเวณซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง แล้ววางแท่งซิลิโคนเข้าไป แค่นี้แผลก็จะถูกซ่อนไว้ในปาก ไม่ต้องโชว์หรูให้ใครเห็น

 

วัสดุที่ใช้ในการเสริมคาง

ศัลยกรรมเสริมคางด้วยซิลิโคน : ซิลิโคนสำหรับการนำมาเสริมนั้น Celeb Clinic เลือกใช้ซิลิโคนนิ่มพิเศษ มีความยืดหยุ่นสูง และผิวสัมผัสดูเป็นธรรมชาติเหมือนกับคางของมนุษย์จริงๆ ซิลิโคนได้ถูกมีการนำมาใช้ในวงการศัลยกรรมตกแต่งมาช้านาน ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความทนทาน ปลอดภัยสูง และไม่มีผลข้างเคียงอาการแพ้ใดๆ




 

วิธีการผ่าตัดเสริมคางของ Celeb Clinic

วิธีที่ 1. การผ่าตัดเปิดแผลด้านนอก เป็นการผ่าตัดบริเวณใต้คาง แต่ไม่ค่อยนิยม เนื่องจากเห็นแผลด้านนอก แต่ก็มีข้อดี คือ โอกาสติดเชื้อจะน้อยกว่าการผ่าตัดด้านใน 

ข้อดี

1. มีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าการเปิดแผลในช่องปาก

2. กล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือนค่อนข้างน้อย เพราะแพทย์สามารถหลีกเลี่ยงกล้ามเนื้อและเส้นประสาทเพื่อเข้าสู่ขอบล่างของกระดูกกรามได้โดยตรง

3. เมื่อเกิดปัญหาซิลิโคนเบี้ยวหรือเอียงจะแก้ไขได้ง่ายกว่า เพราะสามารถผ่าตัดซ้ำที่แผลภายนอกได้เลย

4. สามารถวางตำแหน่งซิลิโคนได้ง่าย

ข้อเสีย

1. มีแผลเป็นเล็กน้อย ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร

2. การเปิดแผลภายนอกไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ (Keloid)



วิธีที่ 2. การผ่าตัดแผลในปาก  เป็นการผ่าตัดเปิดแผลด้านในปาก บริเวณซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง ความยาวของแผลประมาณ 2 ซม. หลังจากนั้น ก็จะแยกเยื่อหุ้มกระดูกคางตรงขอบล่างขึ้นมา แล้วจึงจะวางแท่งซิลิโคน เข้าไปให้พอดีตรงตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้นก็เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย ใช้เวลาทั้งหมด ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็สามารถกลับบ้านได้เลย

ข้อดี

1. ไม่มีแผลเป็น เพราะมองไม่เห็นแผลจากภายนอก

ข้อเสีย

1. แม้มองไม่เห็นแผลภายนอก แต่แผลในปากที่อยู่ติดกับร่องเหงือกจะไม่ค่อยสวยและเห็นชัด

2. มีโอกาสติดเชื้อสูง เพราะในช่องปากมีน้ำลายตลอดเวลา และตอนทานอาหาร เศษอาหารอาจตกลงไปตามขอบแผลได้

3. การวางซิลิโคนไว้ให้ติดกับกระดูกกรามล่างนั้น มีโอกาสเคลื่อนที่และไม่ตรงกับตำแหน่งที่ต้องการได้

4. อาจเกิดปัญหากับกล้ามเนื้อคางและเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ ส่งผลให้มีการหดตัวของกล้ามเนื้อคาง เมื่อมองจากภายนอก ผิวหนังอาจดูไม่เรียบเนียนได้

5. มีพื้นที่ในการผ่าตัดค่อนข้างจำกัด ต้องกรีดเปิดแผลในปากค่อนข้างยาวเพื่อวางซิลิโคน ทำให้เนื้อเยื่อช้ำและมีเลือดออกมาก การเย็บปิดแผลก็ค่อนข้างยุ่งยาก

6. เมื่อเกิดปัญหาซิลิโคนเบี้ยวหรือเอียงจะแก้ไขได้ยาก เพราะแผลเย็บในปากมีมากแล้ว การผ่าตัดซ้ำอีกก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มแผลมากขึ้น

 

ขั้นตอนการเสริมคางด้วยซิลิโคน

  1. ฉีดยาชา แล้วเปิดแผลที่ด้านในของปาก ตรงซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง
  2. หลังจากนั้นก็แยกเยื่อหุ้มกระดูกคางตรงขอบล่าง แล้ววางแท่งซิลิโคน เข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ
  3. เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 1 ชั่วโมง


เลื่อนกระดูกคาง

เลื่อนกระดูกคาง เป็นศัลยกรรมจุดยอดนิยมบนใบหน้า ช่วยเสริมให้ใบหน้าดูมีมิติ ดูมีความเรียวมนตามรูปแบบคางของเรา ที่เข้ากับใบหน้า เลื่อนกระดูกคาง จะช่วยคนที่มีรูปแบบคางบางประเภทที่ไม่เข้ารับกับใบหน้า ทำให้เป็นจุดด้อย เช่น คางสั้น คางเบี้ยวคางหลุบ คางยื่นมากเกินไป เป็นต้น เป็นการทำให้รูปหน้าดูไม่สมส่วน ให้เข้ากลับใบหน้า แก้ไขจุดด้อย ใบหน้าดูสมบูรณ์


ขั้นตอนการเลื่อนกระดูกคาง

  1. ดมยาสลบให้แก่ผู้รักษาก่อน
  2. แพทย์จะเลาะเนื้อเยื้อภายในช่องปาก และ ทำการใช้เลื่อยไฟฟ้าที่เป็นเครื่องมือแพทย์
  3. ตัดกระดูดกรามบริเวณที่กำหนดไว้
  4. ทำการเลื่อนกรามให้เข้าที่ คนไข้ที่มีคางยาว และต้องการเอาออกแพทย์ จะทำการตัดกระดูดในส่วนที่ยาวออก
  5. จัดให้เข้ากับรูปแบบที่กำหนด

 

ใครบ้างที่เหมาะสมกับการเลื่อนกระดูกคาง

  1. เหมาะสำหรับคนที่มี ปัญหาเกี่ยวกับคางมากๆ เช่น มี อาการคางสั้นมาก คางยาวมากเกินไป คางเบี้ยว ค้างไม่เสมอกัน
  2. ต้องไม่มีปัญหาทางช่องปาก เช่น กรามอักเสบ ฟันยืน ฟันไม่เท่ากัน
 
ใคร? ที่ควรศัลยกรรมเสริมคาง

1. คนที่มีอาการสบฟันผิดปกติ คางยื่นออกมาข้างหน้า

2. คนที่คางเล็กมากเกินไป คางหดสั้นเข้าไปด้านใน

3. คนที่โครงหน้าไม่ได้รูป กรามและคางไม่สมส่วน

4. คนที่ใบหน้าสั้น สัดส่วนคางไม่เข้ารูปกับสัดส่วนใบหน้าส่วนอื่นๆ

 


4 เหตุผลที่เสริมคางกับที่ เซเลบคลินิก

 

1. ออกแบบและวิเคราะห์คางให้ความสวยงามตามความเหมาะสมของรูปหน้า เพื่อให้ได้โครงหน้าสวยได้รูปสมบูรณ์แบบที่สุด

2. มั่นใจ ปลอดภัย โดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง

3. เรามีระบบการดูแลหลังผ่าตัดสำหรับผู้ที่เสริมคางโดยเฉพาะ เนื่องจากการเสริมคางจะต้องดูแลหลังผ่าตัดในช่วงอาทิตย์แรกเป็นพิเศษ เพื่อลดอาการบวมช้ำ และอาการอักเสบ ระบบนี้จะช่วยให้คุณพักฟื้นในระยะเวลาที่ไม่นาน

 

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการศัลยกรรมเสริมคางที่ เซเลบคลินิก

 

เพื่อให้การผ่าตัดศัลยกรรมได้ผลดี ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดควรเตรียมตัว ดังนี้

 

1. ไม่ต้องอดอาหาร เนื่องจากเป็นการผ่าตัดโดยใช้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ไม่ต้องดมยาสลบ แต่ก็ไม่ควรทานจนอิ่มเกินไป ป้องกันอาการแน่นอึดอัดท้องระหว่างการผ่าตัด

2. งดกลุ่มยาที่จะมีผลต่อการหยุดเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด หยุดรับประทานสมุนไพรวิตามินอาหารเสริมต่างๆ  เพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่าย และออกมากกว่าปกติ

3. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า ซึ่งถ้าหากการล้างหน้าไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้

4. แปรงฟันทำความสะอาดช่องปากให้พร้อมก่อนการผ่าตัด

5. งดหรือเลิกสูบบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะมีผลต่อการหายของแผล ทำให้แผลหายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

6. แจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยารับประทาน ยาชา หรือยาสลบ ให้แพทย์ทราบ

7. เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ตื่นเต้นมากกว่าความเป็นจริง และควรรับทราบว่าหลังการผ่าตัดมีโอกาสเกิดรอยช้ำและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องใช้เวลาในการเข้าที่หรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่

 

วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมคาง

 

1. ในช่วง 5 วันหลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบด้วยน้ำแข็งเพื่อลดความเจ็บปวดและป้องกันการบวมโดยวางถุงประคบรอบๆ คาง

2. แนะนำในช่วง 1 อาทิตย์แรกให้เข้ามาที่คลินิกเพื่อทำการล้างทำความสะอาดแผลทุกวันเพื่อป้องกันการสะสมของเศษอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการติดเชื่อ และอักเสบ

3. ในช่วงวันที่ 6 หลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบร้อนด้วยไข่ต้มเพื่อลดลดอาการบวมช้ำบริเวณรอบๆ คาง

4. นอนศีรษะสูง และห้ามนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพราะเนื่องจากอาจไปกดทับบริเวณคางที่ยังอักเสบอยู่

5. รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบอย่างเคร่งครัด

6. ขณะรับประทานอาหารในช่วง 1 อาทิตย์แรกแนะนำให้ทานโดยหลอดดูดอาหาร เพื่อป้องกันเศษอาหารตกลงไปในบริเวณแผล

7. มาตามนัดที่ได้รับจากทางคลินิก ห้ามแกะพลาสเตอร์ หรือตัดไหมออกเองก่อนกำหนด

8. ทำความสะอาดใบหน้าด้วยผ้าเปียกเช็ด หรือทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแทนการล้างหน้า

9. อาการบวมเขียวช้ำอาจมีขึ้นได้หลังผ่าตัด โดยเฉพาะในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ใน 3-4 เดือนกว่าเนื้อเยื่อจะกลับมาใกล้เคียงปกติ บางรายอาจต้องใช้เวลานาน 6 เดือน ถึง 1 ปี

10. หลีกเลี่ยงการก้มหน้ามากๆ เช่น นั่งอ่านหนังสือ เล่นคอมฯ ยกของหนัก ส่ายหน้าหรือเอียงหน้าแรงๆ โดยเฉพาะ 2 อาทิตย์แรก

11. หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และสูบบุหรี่ประมาณ 3 เดือน

12. หลีกเลี่ยงการทานอาหารทะเล ของหมักของดอง อาหารรสจัด และอาหารที่คบเคี้ยวยากในช่วง 1 เดือนแรก

13. สามารถออกกำลังกายหนักๆ เช่น วิ่ง หรือว่ายน้ำ ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป

14. หากมีความผิดปกติอื่นๆ สามารถมาปรึกษาที่คลินิกได้ทันที